Apple Carplay VS Android

Apple VS Android

The smart phone hits the road

บริษัทไอทียักษ์ใหญ่กำลังเดินหน้าพลิกโฉมระบบให้ความบันเทิงในรถด้วย

แอพพลิเคชั่นแผนที่และบริการ Cloud service ต่างๆ

ช่วงเวลาของระบบ Infotainment ในรถยนต์แบบดั้งเดิมที่ใช้งานยากและมีจอทัชสกรีนที่วุ่นวายกำลังจะจบลง เพราะทั้ง Apple และ Google ต่างก็เริ่มเปิดตัวเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนติดตั้งในรถยนต์แล้ว

  

Apple เริ่มเปิดศึกก่อนด้วยระบบ “CarPlay” โดยระบบนี้สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และนำทางได้ด้วย Apple Maps สามารถเลือกฟังเพลงที่เก็บไว้บน Cloud service หรือจะดูหนัง ดูรูปภาพ ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังมีระบบสั่งการด้วยเสียงที่ทันสมัยขึ้น และสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ซึ่งไอคอนการทำงานต่างๆจะเหมือนกับการใช้งานบน iPhone

Google กำลังพัฒนาระบบคล้ายๆ กับ CarPlay คือได้จัดตั้งกลุ่ม Open Automotive Alliance ขึ้นมา โดยมี Audi , Hyundai และ General Motors ได้ลงนามเข้าร่วมด้วย

                เนื่องจากสมัยนี้เทคโนโลยีไปไวกว่าวงการรถยนต์มาก กว่าจะทดสอบ ปรับปรุงจนใช้งานและขายได้จริงก็ต้องรอกัน  3 ปี ถึงเวลานั้นเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนก็ก้าวอีกขั้นแล้ว ดังนั้นบริษัทจึงหาทางแก้ด้วยการทำซอร์ฟแวร์ให้เป็นแบบที่สามารถอัพเดตได้ มันก็น่าจะช่วยป้องกันไม่ให้ระบบ Interface ของรถยนต์นั้นล้าสมัยกว่าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ซึ่งก็เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถทำได้ง่ายและคุ้มทุน

Five ways Apple & Google wall enhance your car

1   1)     Third-Party Apps : ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ไม่จำกัด ไม่ต้องใช้ iTunes ในการโหลดด้วยระบบ CarPlay อนุญาติให้โหลดอย่าง Spotify , iHeart radio และ Pandora ได้เลย

2    2)     One Map : สามารถนั่งอยู่ที่บ้านแล้ววางแผนการเดินทางได้ด้วย iPad จากนั้น Save ลง Cloud แล้วพอขึ้นรถก็ดาวน์โหลดจาก Cloud มาลงที่ระบบในรถรถได้เลย

3    3)     Hands-Free : สามารถสั่ง CarPlay ด้วยเสียง เช่น “Want to eat” จากนั้นระบบจะเสาะหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ ให้ หรือจะใช้เพื่อเล่นเพลง เปิด Text อ่านแล้วตอบกลับ หรือเข้าโหมดดูปฏิทิน ก็สามารถทำได้

4    4)     Access To The Cloud : สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งไฟล์ ภาพ และภาพยนตร์ที่อยู่บน Cloud ได้

5   5)     Remote Control : สามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นเพื่อทำการสตาร์ตรถแล้วเปิดแอร์รอ หรือทำการล็อครถและเช็คปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือในถังได้ 

TWO TRIBES: WHO’S WITH WHOM

APPLE CARPLAY >> Ferrari , Hyundai , Honda , Volvo , Mercedes , BMW , Chevrolet , Ford , Mitsubishi , Land Rover , Nissan , Opel/Vauxhal , Subaru , Suzuki , Toyota , Peugeot Citroen , Jaguar

ANDROID (Google) >> Audi , GM , Honda , Hyundai

ที่มาภาพ : http://www.carmagazine.co.uk/Shared/GalleryLightbox/GalleryLightbox.aspx?PageId=20780&Keywords=makeVolvo%2BSectionNews%2BTypeMotor+Industry&Image=4&KeyValuePairs=kvManufacturer%3DVolvo%3BkvSection%3DNews%3BkvType%3DMotorIndustry%3B

Read More

...เคยลังเลกันไหม!!...

ว่าจะ "เคลือบแก้ว" หรือ "จะแวกซ์" ดี

++++++++++++++++++++++++++

วันนี้ทาง G2C มีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ 

++ "ความต่างระหว่าง การแวกซ์ กับ เคลือบแก้ว"++
มาฝากกันค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

== การแวกซ์ ==

• ให้ความเงางามในราคาที่ไม่แพง
• มีอายุการใช้งานในระยะสั้นๆ 
• ต้องทุกซ้ำเป็นประจำแทบทุกเดือน
• หากเทียบในระยะยาว การแว็กซ์อาจส่งผลต่อสีผิวของรถ เนื่องจากแว็กซ์มีน้ำมันผสมอยู่ เมื่อทำปฎิกิริยากับความร้อน และแสง UV จะก่อความเสียหายได้

== การเคลือบแก้ว==

• ให้ความเงางามที่ใสเหมือนกระจก ในราคาที่ค่อนข้างสูง
• มีอายุการใช้งานในระยะยาว
• ปกป้องผิวรถยนต์ ที่มีชั้นผิวเคลือบที่แข็งแรง
• ช่วยปกป้องรถจากมลภาวะต่างๆ
• ลดปัญหาคราบน้ำ หรือฝนกัดชั้นสีผิวรถ 
• ลดปัญหารอยขนแมว แสง UV 
• ลดคราบสกปรกจากมูลนก ยางไม้ หรือยางมะตอย

โอ้ะโอ!! อาจต้องดูกันแล้วหล่ะค่า ว่าอยากให้รถของท่านเงางามอย่างเดียว 

หรืออยากให้ทั้งเงางามและทั้งป้องกันสีตัวถังรถคุณด้วยด้วย อิอิ ^^ 

*** โดยทาง G2C จะคอยนำเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันนะคะ *** 

++  หาอ่านกันได้ที่ Blog : http://glasscoatingclub.blogspot.com ++

++ ติดตามกันได้ที่ : https://www.facebook.com/glasscoatingclub ++

++  แวะชมสินค้า/บริการของ G2C ได้ที่ : http://www.glasscoatingclub.com ++

Read More

... คุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลือบแก้ว ...

...ดีพอแล้วหรือยัง!! ...

++++++++++++++++++++++++++

วันนี้ทาง G2C มีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ของ

"ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการเคลือบแก้ว" 

มาฝากกันค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เคยมีความคิดนี้กันไหม!!  ** หากใช่ แสดงว่า "คุณกำลังเข้าใจผิด" **

• เคลือบแก้วไปแล้ว เมื่อหมดอายุการใช้งาน ถ้าไม่เคลือบซ้ำ สีรถจะเพี้ยน เป็นรอยด่างๆ ไม่เท่ากัน 
• การดูแลรถจะยากมากขึ้น ยุ่งยากมากขึ้น
• การเคลือบแก้วเหมาะกับรถใหม่ป้ายแดงเท่านั้น

*** ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ "ไม่เป็นความจริง" ทั้งนั้น  เพราะ

การเคลือบแก้วของแท้ จะมีลักษณะดังนี้

• การเคลือบแก้ว เป็นการเคลือบทับลงไปอีกชั้นจากชั้นสีจริง หากหมดสภาพก็จะเป็นชั้นที่เราเคลือบ ไม่ใช่สีผิวรถจริงๆ 
• การดูแลรักษาจะง่ายขึ้น เพียงแค่ใช้น้ำเปล่าหรือแชมพูค่า pH เป็นกลาง ร่วมกับฟองน้ำ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ก็เพียงพอแล้ว
• รถเก่าหรือใหม่ก็เคลือบได้ ยิ่งหากเป็นรถเก่า ก็จะยิ่งเห็นความแตกต่างเรื่องความเงางามระหว่างก่อนทำและหลังทำชัดมากขึ้น

*** โดยทาง G2C จะคอยนำเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันนะคะ *** 

++  หาอ่านกันได้ที่ Blog : http://glasscoatingclub.blogspot.com ++

++ ติดตามกันได้ที่ : https://www.facebook.com/glasscoatingclub ++

++  แวะชมสินค้า/บริการของ G2C ได้ที่ : http://www.glasscoatingclub.com ++

Read More

เอ...เราจะรู้ได้อย่างไรกันน้า!!! 

ว่ารถเราได้ผ่านการเคลือบแก้วมาแล้วจริงๆ 

และมันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

++++++++++++++++++++++++++

วันนี้ทาง G2C มีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ 

"วิธีการทดสอบรถเบื้องต้น ว่าได้ผ่านการเคลือบแก้วที่มีคุณภาพหรือไม่" 

มาฝากกันค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

1.) ทดสอบด้วยการ "สังเกตด้วยตาเปล่า"

       หากรถของคุณได้ผ่านการเคลือบแก้วที่ได้มาตรฐาน จะมีลักษณะเป็นดังนี้

• เมื่อเวลาฝนตก หรือล้างทำความสะอาดรถ คราบสกปรกต่างๆ จะหลุดออกได้ง่าย 
• เมื่อโดนน้ำ จะไม่ทิ้งร่องรอยของคราบน้ำ 
• น้ำที่กระทบชั้นผิวรถ จะมีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ และไหลผ่านได้อย่างรวดเร็ว 
• ทนต่อรอยขีดข่วนต่างๆได้เป็นอย่างดี 
• รถแลดูเหมือนใหม่เสมอ แม้แต่รถสีขาวก็ยังสะท้อนความเงางามออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด

       แต่ถ้าผลลัพธ์ไม่ใช่ดังที่กล่าวมา นั่นก็แสดงว่ารถของคุณถูกการเคลือบแก้วมาโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ก็ไม่ได้ผ่านการเคลือบแก้วจริงๆ เป็นเพียงแค่การล้างเคลือบสีเท่านั้น

2.) ทดสอบด้วย "กรดเกลือไฮโดรคลอริก" 

** แต่สำหรับวิธีนี้ ใครใจถึง ไม่แนะนำให้ลองทำนะจร้ะ อิอิ ^^ **

       ให้นำกรดเกลือไฮโดรคลอริกที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนสูง มาหยดทดสอบลงบนชั้นผิวรถที่ผ่านการเคลือบ กรดเกลือดังกล่าวจะไม่สามารถเข้าไปทำลายสีผิวรถของคุณได้ 

       แต่หากเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบที่ไม่มีคุณภาพ ฤทธิ์จากกรดดังกล่าวจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับชั้นผิวรถของคุณทันที

*** โดยทาง G2C จะคอยนำเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันนะคะ *** 

++  หาอ่านกันได้ที่ Blog : http://glasscoatingclub.blogspot.com ++

++ ติดตามกันได้ที่ : https://www.facebook.com/glasscoatingclub ++

++  แวะชมสินค้า/บริการของ G2C ได้ที่ : http://www.glasscoatingclub.com ++

Read More

Ultra Glass Coating NEO คืออะไร

Ultra Glass Coating NEO คืออะไร

Ultra Glass Coating NEO คือ นวัตกรรมการเคลือบสีตัวถังรถยนต์อันล้ำยุคที่ใช้หลักหารสร้างแผ่นฟิล์มในเสมือนกระจกที่มีคุณสมบัติแข็งและทดทานขึ้นมาเพื่อปกป้องสีตัวถังรถยนต์ของท่านให้ดูสวยเงางามตลอดเวลา

ลักษณะเด่นที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เคลือบสีตัวถังรถยนต์ Ultra Glass Coating NEO

	รับประกันความเงางามยาวนานถึง 5 ปี ทางเรายินดีบริการซ่อมเคลือบสีตัวถังรถยนต์โดยไม่ต้องชำระค่าบริการใดๆ ในกรณีที่สำรวจพบว่าความเงางามของสีตัวถังรถยนต์ส่วนหนึ่งส่วนใดเสื่อม ประสิทธิภาพลง ยกเว้นส่วนเรซินของล้อ โดยหลังจากที่ท่านนำรถยนต์เข้ามาตรวจสภาพทุก 6 เดือนต่อครั้ง
	วัตถุดิบอันล้ำยุค Polysilazane เมื่อ polysilzane ทำปฏิกิริยากับน้ำในอากาศแล้วจะเปลี่ยนสภาพตัวเองเป็นแผ่นฟิล์มใสเสมือนกระจกที่มีความแข็งและทนทานสูงขึ้นมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมการเคลือบสีตัวถังรถยนต์ที่ล้ำยุค
	คุณสมบัติที่ลื่นต่อน้ำทำให้สามารถป้องกันคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติลื่นต่อน้ำทำให้คราบสกปรกต่างๆ เกาะติดสีตัวถังรถยนต์ถูกชำระล้างด้วยน้ำฝนได้อย่างง่าย และยังสามารถรักษาคุณสมบัตินี้ได้อย่างยาวนานอีกด้วย
	เพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงรักษารถยนต์ คุณสมบัติลื่นต่อน้ำทำให้คราบสกปรกต่างๆ เกาะติดสีตัวถังได้ยาก และสามารถล้างออกอย่างง่ายดาย ในกรณีที่ไม่สามารถล้างคราบสกปรกหรือคราบยางมะตอบออกได้ด้วยวิธีการล้างน้ำเปล่า กรุณาใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ให้มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์
	ปกป้องสีตัวถังรถยนต์ด้วยคุณสมบัติทนทานต่อความร้อนสูงและเป็นแผ่นฟิล์มที่มีความแข็งสูง แผ่นฟิล์มเสมือนกระจกที่มีความแข็งสูง จะคอยป้องกันสีตัวถังรถยนต์ของท่านจากการเสียดสี ความร้อน คราบสกปรก และฝนกรด เป็นต้นได้เป็นอย่างดี

ความแตกต่างจากแวกซ์ทั่วไป

คุณสมบัติลื่นต่อน้ำทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี	คราบสกปรกและ หยดน้ำยังคงหลงเหลืออยู่
ถึงแม้จะถูกแสงอาทิตย์หรือลมฝนก็ตาม แผ่นฟิล์มเสมือนกระจกความแข็งสูงที่มีความเสถียรต่อปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ทำให้คราบสกปรก ไม่สามารถเกาะติดที่มีตัวถังรถยนต์ได้	เมื่อถูกแสงอาทิตย์หรือลมฝนจะทำให้ผิวของแวกซ์ซึ่งมีความอ่อนยอมให้คราบสกปรกผ่านเข้าไปเกาะติดที่สีตัวถังรถยนต์ได้ง่าย เนื่องจากแวกซ์ทั่วไปไม่มีความเสถียรต่อปฏิกิริยาเคมีทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซับน้ำสูญเสียไปในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดคราบของหยดน้ำขึ้นที่บริเวณสีตัวถังรถยนต์

Read More